การจัดการความรู้ เป็นกระบวนการที่ช่วยรวบรวม
จัดเก็บ วิเคราะห์และกำหนดประเด็น รวมไปถึง
การเผยแพร่องค์ความรู้ที่มีประโยชน์และมีความจำเป็นต่อการพัฒนาและความเจริญก้าวหน้าขององค์กร
จุดมุงหมายของการจัดการความรู้
เป้าหมายหลักของการจัดการความรู้ คือ
การใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้ที่ได้มีการรวบรวม จัดเก็บ วิเคราะห์และกำหนดประเด็น
รวมไปถึงการเผยแพร่องค์ความรู้ เพื่อ ประสิทธิภาพและความเจริญก้าวหน้าขององค์กร
โดยผ่านการสนับสนุนจากเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ
เพื่อใช้เก็บรวบรวมและเผยแพร่ วัตถุประสงค์โดยทั่วไป ของการจัดการความรู้
มีดังต่อไปนี้
1. เพื่อให้องค์กรตระหนักและเห็นความสำคัญของความรู้ที่มีอยู่ในตัวของแต่ละบุคคล
และในองค์กร โดยนำความรู้นั้นมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์และประสิทธิภาพ สูงสุด
ทั้งในแง่ของการทำงานและวิถีการดำเนินชีวิต
2. มีการนำเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์
และเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในการจัดการความรู้อย่างเป็นระบบ เช่น
การเผยแพร่องค์ความรู้ผ่านเว็บไซต์ของ หน่วยงาน
การนำระบบอินทราเน็ตมาใช้ในการติดต่อ
และเปลี่ยนองค์ความรู้ภายในและระหว่างหน่วยงาน
3. เพื่อสร้างและพัฒนา ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานภายในองค์กร
โดยการนำองค์ความรู้ที่ได้จากการจัดการความรู้มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น
ระบบการดูแลช่วย เหลือผู้เรียนในสถานศึกษา ระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน เป็นต้น
ประเภทของความรู้
ความรู้สามารถแบ่งออกได้สองประเภท คือ ความรู้ชัดแจ้ง (Explicit
Knowledge) และความรู้แฝงเร้น หรือความรู้แบบฝังลึก (Tacit
Knowledge) ความรู้ชัดแจ้งเป็น
ความรู้ที่ถูกบรรยายออกมาเป็นตัวอักษร เช่น คู่มือปฏิบัติงาน หนังสือ วารสาร
เป็นต้น ส่วนความรู้แฝงเร้นเป็นความรู้ที่ฝังอยู่ในตัวบุคคล ส่วนใหญ่
มีลักษณะเป็นความรู้ที่แฝง เร้นอาจอยู่ในในบุคคลที่ทำงานในองค์กรหรือแผนกต่าง ๆ
ปราชญ์ชาวบ้าน และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะในแต่ละด้าน
จึงต้องอาศัยกลไกแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซึ่งก็คือ การจัดการความรู้
1. ความรู้แบบชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) เป็นความรู้ที่จัดการรวบรวมได้ง่าย
มีการจัดระบบและถ่ายโอนโดยใช้วิธีการทางดิจิทัล มีลักษณะเป็นวัตถุดิบ (Objective)
เป็นแนวคิดและทฤษฏี สามารถแปลงเป็นรหัสในการถ่ายทอดโดยวิธีการที่เป็นทางการ
เช่น นโยบายขององค์กร แนวคิดวิธีการในการทำงาน เป็นต้น
2.ความรู้แบบฝังลึก (Tacit Knowledge) เป็นความรู้ที่ไม่สามารถอธิบายโดยใช้เป็นคำพูดได้
เป็นความรู้ที่มีรากฐานมาจากการกระทำและประสบการณ์ในวิถีการ ดำรงชีวิต อาจมีลักษณะเป็นความเชื่อ
ทักษะ เช่น ทักษะในการประกอบอาชีพ ทักษะในการจักรสาน เป็นต้น
ความรู้แบบฝักลึกต้องการการฝึกฝนเพื่อให้
เกิดความชำนาญ มีลักษณะเป็นเรื่องเฉพาะส่วนบุคคล เช่น วัฒนธรรมองค์กร
ทักษะ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในเรื่องต่าง ๆ เป็นต้น
ระดับความรู้
ระดับที่ 1 :
Know-what (รู้ว่า คืออะไร) เป็นความรู้ในเชิงการรับรู้
ระดับที่ 2 :
Know- how (รู้วิธีการ)
เป็นความสามารถในการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติ
ระดับที่ 3 :
Know – why (รู้เหตุผล) เป็นความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
ในเชิงเหตุผลที่ซับซ้อน ซึ่งอยู่ภายใต้เหตุการณ์และสถานการณ์ต่าง ๆ
ความรู้ในระดับนี้สามารถพัฒนา ได้บนพื้นฐานของประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหา
ระดับที่ 4 :
Care-why (ใส่ใจกับเหตุผล)
เป็นความรู้ในลักษณะการสร้างสรรค์ที่มาจากตัวเอง บุคคลที่มีความรู้ในระดับนี้จะมี
เจตจำนง แรงจูงในและการปรับตัวเพื่อ ความสำเร็จ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น